Nikon Shoots for the Stars

ขอชวนคุณย้อนรำลึกความทรงจำ และร่วมเรียนรู้ว่า Nikon มีบทบาทในภารกิจสำรวจอวกาศอย่างไร พร้อมแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้แบรนด์ "มุ่งสู่ดวงดาว" อย่างแท้จริง
Nikon: เทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดพัฒนา และมุ่งสู่ความเป็นเลิศอยู่เสมอ
ย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 1960 NASA กำลังมองหากล้องถ่ายภาพที่มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น และสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมอันรุนแรงของอวกาศได้ พวกเขาเลือกไว้วางใจใน Nikon ซึ่งในขณะนั้นกำลังเริ่มสร้างชื่อเสียงในตลาดผู้บริโภค และท้ายที่สุดก็ได้แต่งตั้งให้ Nikon เป็นผู้ผลิตกล้องฟิล์มขนาด 35 มม. อย่างเป็นทางการสำหรับภารกิจพิเศษของพวกเขา

ยาน Apollo 15 มุ่งสู่ดวงจันทร์
อย่างไรก็ตาม ก้าวแรกอย่างแท้จริงของ Nikon ในการเดินทางสู่อวกาศ เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับกล้อง Nikon Photomic FTN ซึ่งเป็นกล้อง Nikon F รุ่นปรับแต่งพิเศษที่ถูกนำขึ้นไปใช้งานบนยาน Apollo 15 ในปี 1971
เพื่อให้กล้อง Photomic FTN สามารถใช้งานในอวกาศได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทีมวิศวกรรมของ Nikon ได้พัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้กล้องมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากันทั้งบนพื้นโลกและในระยะกว่า 25 กิโลเมตรเหนือพื้นผิวโลก หนึ่งในนวัตกรรมที่โดดเด่นคือ สารหล่อลื่นพิเศษ ที่ ไม่ระเหย แม้ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว การเร่งความเร็วแบบเฉียบพลัน และแรงดูดอากาศในสุญญากาศ
นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นถึง ความแข็งแกร่งและความทนทานในตำนานของผลิตภัณฑ์ Nikon ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมกล้อง Nikon จึงอยู่บนทุกภารกิจอวกาศแบบมีมนุษย์ของ NASA จนถึงปัจจุบัน


พร้อมที่จะไปสู่อวกาศหรือยัง?
ก้าวแรกของ NASA ในการเปลี่ยนมาใช้กล้องดิจิทัล SLR อย่างเต็มรูปแบบ เกิดขึ้นได้ด้วย Nikon NASA D2XS ซึ่งถูกนำไปใช้งานบน กระสวยอวกาศ Discovery และบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในปี 2007
ปัจจุบัน กล้อง Nikon สามารถพบได้ทั้ง ภายในและภายนอกสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่าง Nikon และ NASA ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
กล้อง Nikon ถูกใช้งานทุกวันบนความสูงกว่า 400 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก สำหรับการ ตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยภาพถ่าย, การ เฝ้าระวังระบบต่าง ๆ และเพื่อ วางแผนการบำรุงรักษาในอนาคต


Nikon: พยานแห่งห้วงอวกาศ ที่ตอบสนองความใคร่รู้ของเราต่อภาพถ่ายจักรวาล
ระหว่างปี 2013 ถึง 2016 องค์การนาซาสั่งซื้อกล้อง Nikon D4 จำนวน 48 ตัว พร้อมเลนส์ Nikkor อีก 64 ตัว และในปี 2017 นาซาได้สั่งซื้อกล้องเพิ่มจากผู้ผลิตอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นกล้อง Nikon D5 จำนวน 53 ตัว
ภาพถ่ายจากอวกาศจำนวนมากที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะในหนังสือเรียนหรือบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งแสดงให้เห็นถึง “ความปกติ” ในชีวิตประจำวันของนักบินอวกาศ ล้วนถูกบันทึกไว้ด้วยกล้อง Nikon ทั้งสิ้น แม้การถ่ายภาพดาราศาสตร์จะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุดที่มนุษย์เคยเผชิญ—ภาวะไร้น้ำหนัก อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และการโคจรรอบโลกด้วยความเร็วกว่า 28,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เช่นเดียวกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)
ความเสี่ยงนั้นสูง แต่เพียงแค่เข้าไปดูอินสตาแกรมของ โธมัส เปสเก นักบินอวกาศ ก็จะสัมผัสได้ถึงความเชี่ยวชาญของ Nikon ด้านเลนส์ความแม่นยำสูง รสนิยมการถ่ายภาพของเปสเก และที่สำคัญที่สุดคือ ความงดงามตระการตาของโลกใบนี้จากมุมมองในอวกาศ

สภาพแววล้อมที่ทรหด
กล้องระดับเรือธงสำหรับมืออาชีพของ Nikon เหล่านี้ ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายที่สุด ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือที่เรียบง่าย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักถ่ายภาพมืออาชีพบนโลกจำนวนมากจึงเลือกใช้งานพวกมัน
เราถือเป็นเกียรติสูงสุดเมื่อองค์กรอย่าง NASA เลือกใช้กล้องของเรา! ในปี 2021 ภาพถ่ายปรากฏการณ์พระจันทร์ทรงกลดอันน่าทึ่งที่ถูกบันทึกด้วยกล้อง Nikon Z6 II ยังได้รับเลือกให้ปรากฏบนเว็บไซต์ของ NASA ในฐานะ "ภาพดาราศาสตร์ประจำวัน" (Astronomy Picture of the Day) อีกด้วย

Nikon: บานหน้าต่างที่เปิดออกสู่มาตรฐานอันสูงสุด ทั้งในโลกนี้และนอกโลก
แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านการสร้างจุดร่วมทางเทคโนโลยีระหว่างหลากหลายสาขาการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกล้องจุลทรรศน์ กล้องส่องทางไกล เครื่องสเต็ปเปอร์ สแกนเนอร์ และแน่นอน เลนส์แว่นตา กำลังนำความก้าวหน้าจากเทคโนโลยีด้านอวกาศมาใช้เป็นแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาเลนส์แว่นตา เช่นเดียวกับโซลูชันที่ล้ำหน้าและเป็นผู้นำในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายภาพ กล้องส่องทางไกล หรือกล้องจุลทรรศน์ เลนส์แว่นตาของ Nikon ก็สะท้อนถึงนวัตกรรมที่แท้จริงของแบรนด์เช่นกัน

ตัวอย่างเช่น กล้องดิจิทัล SLR ของ Nikon ถูกนำมาใช้ในการถ่ายภาพดาราศาสตร์ เนื่องจากสามารถจัดการกับความคลาดของแสงจากดาวและสี (stellar และ chromatic aberrations) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและใสเคลียร์ ซึ่งความรู้และเทคโนโลยีเดียวกันนี้เอง ที่ Nikon Lenswear นำมาใช้ในการออกแบบเลนส์แว่นตาแบบแอสเฟอริก เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นได้อย่างคมชัดทั่วทั้งเลนส์ในทุกมุมมอง

แต่จะมีประโยชน์อะไรในการเก็บภาพความงดงามของจักรวาลด้วยกล้องระดับเรือธง หากผู้คนไม่สามารถชื่นชมภาพเหล่านั้นได้อย่างไร้กังวล? Nikon คือแบรนด์แรกที่เปิดตัวนวัตกรรมการเคลือบเลนส์ที่สามารถกรองแสงสีฟ้า¹ ซึ่งแผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ หน้าจอดิจิทัล และแสงประดิษฐ์ นวัตกรรมการเคลือบอันล้ำหน้านี้เกิดขึ้นจากความรู้เชิงลึกของ Nikon เกี่ยวกับประวัติศาสตร์แห่งการควบคุมแสงอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ชื่อเสียงด้านความแข็งแกร่งทนทานของ Nikon ก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ถึงขั้นในอวกาศ เพราะวัสดุและเทคโนโลยีที่ใช้ก็เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบไทเทเนียมบนตัวกล้อง หรือการใช้ Nano Crystal Coating เพื่อลดแสงฟุ้ง แสงสะท้อน และอนุภาคระดับนาโนให้น้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น ล้วนสะท้อนถึงความใส่ใจของ Nikon ในเรื่องความประณีต และความทนทานของผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง

ดังนั้นจึงเกิดเป็น SeeCoat Next โค้ทติ้งเลนส์จาก Nikon Lenswear ซึ่งเป็นการเคลือบเลนส์ที่ทนทานที่สุดของแบรนด์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความแข็งแกร่งของเพชร เพื่อให้ผู้สวมใส่มั่นใจได้ในความคงทนและประสิทธิภาพในการใช้งานระยะยาว
เมื่อคุณเลือกเลนส์แว่นตาจาก Nikon คุณกำลังเลือกเทคโนโลยีด้านสายตาที่ล้ำสมัยที่สุด พร้อมกับประโยชน์จากการบูรณาการความเชี่ยวชาญในหลากหลายอุตสาหกรรม ความทนทานและความแม่นยำของผลิตภัณฑ์ คือหัวใจสำคัญของการมีอยู่ของ Nikon อย่างแท้จริง